โรคน้ำเหลืองเสีย คืออะไร รักษาอย่างไร

Last updated: 21 พ.ค. 2563  |  132132 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรคน้ำเหลืองเสีย คืออะไร รักษาอย่างไร

โรคน้ำเหลืองเสีย คือ อะไร
ภาวะน้ำเหลืองไม่ดี Poor lymph disorder คือ ปรากฏการณ์ที่อวัยวะมีการอัดอั้น (congestion) ระบายน้ำเหลืองไม่ราบรื่น เมื่อเรื้อรังก็จะอุดอู้ ของเสียจะคั่งค้าง ไม่ถ่ายออกเทไป ทำให้ก่ออักเสบได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเกิดมีการแสลงอาหาร จากผลิตภัณฑ์สัตว์ (เนื้อไข่นม) ปนการแทรกซ้อนที่ติดเชื้อตามผิวหนัง กลายเป็นโรคน้ำเหลืองเสีย Bad lymph sickness

โรคน้ำเหลืองไม่ดี มีอาการและอาการแสดงที่หลากหลายกว่าที่เราเคยรู้จักกันมา อาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มโรค Superfamily  ที่ครอบคลุมไปถึง เช่น โรคหลอดเลือดขอด โรคปวดเข่า(เสื่อม) โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังผื่นคัน โรคSLE โรครูมาตอยด์ โรคบวมไขมัน โรคอ้วน โรคภาวะที่ช่วงล่างใหญ่ผิดสัดส่วน ต้นขาโต น่องอวบ โรคภาวะบวมต่างๆที่พบได้ในโรคเก๊าต์ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง รวมทั้งโรคมะเร็งและผลข้างเคียงจากมะเร็ง หรือจากการผ่าตัดรักษามะเร็ง เฉพาะกรณีหลังนี้ ประมาณว่า เรามีผู้ป่วยบวมไม่น้อยกว่า 300,000 คนทั่วประเทศไทย ที่เคยผ่านการผ่าตัดมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก

ความเรื้อรังแห่งโรคทั้งหลายที่เมื่อเป็นมานานถึงระยะหนึ่งก็จะก่อสภาวะน้ำเหลืองไม่ดี ซึ่งจะขยายความรุนแรงของอาการ และเพิ่มการลุกลามของโรค อาการเมื่อยน่อง เจ็บขา ปวดเอวในคนวัยทำงาน (เบื่อขึ้นบันได เดินไม่ทน เหนื่อยไว) อาการ ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว เจ็บไปทั้งตัว อาการเลือดลมไม่เดิน อาการลุกก็โอยนั่งก็โอย เดินเหินไม่คล่องทั้งในคนทั่วไปหรือ ในผู้สูงอายุ อาการปวดในผู้ป่วยมะเร็ง เหล่านี้ ล้วนมีพื้นฐานร่วมบนภาวะน้ำเหลืองไม่ดี เราเคยให้การบำบัดรักษาผู้ป่วย มะเร็งระยะสุดท้ายที่ปวดทรมานต้องกินมอร์ฟีนวันละ 5-10 เม็ด เมื่อเริ่มบำบัดน้ำเหลือง สามารถทำให้มอร์ฟีนเป็น ศูนย์ เม็ดได้ตั้งแต่วันแรก เป็นต้น

วิธีการรักษาโรคน้ำเหลืองเสีย
วิธีการรักษานั้น ว่ากันว่ามีหลายวิธี เพราะบางตำราจีนก็ว่า น้ำเหลืองเสียนั้นเป็นเพราะปอดไม่ดี ต้องดูแลที่ปอด จึงขอนำเสนอวิธีต่างๆ ดังนี้นะคะ

“วิธีรักษาน้ำเหลืองไม่ดี ด้วยการเลือกทานอาหารเพื่อดูแลปอด”

จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรักษาอาการที่เราเรียกกันว่าน้ำเหลืองไม่ดี มีการค้นพบข้อมูลเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีน ถึงวิธีและรูปแบบการรักษาด้วยการดูแลปอด ผู้อ่านคงรู้สึกและสงสัยว่าทำไม? จึงไปเกี่ยวกับปอดในเมื่อปัญหาดังกล่าวน่าจะเกิดจากผิวหนัง วันนี้จะอธิบายให้หายคล่องใจ พร้อมกับนำเสนอข้อมูลวิธีการรักษาน้ำเหลืองไม่ดีที่คุณผู้อ่านสามารถปฏิบัติ เองได้

การแพทย์แผนจีนเชื่อว่าหากผิวหนังไม่ดีย่อมเกิดจากปอด

กล่าวถึงการรักษาอาการน้ำเหลืองไม่ดีพบว่า การแพทย์แผนจีนเชื่อว่าสาเหตุหลักมาจากปอด เพราะผิวหนังถูกควบคุมและดูแลโดยปอด ดังนั้นอาการที่แสดงออกมาทางผิวหนัง “ที่เราเรียกว่าน้ำเหลืองเสีย” เกิดจากปอดที่ไม่แข็งแรง เพราะเมื่อปอดไม่แข็งแรงจะส่งผลให้ชั้นของผิวหนังเกิดอาการแพ้ง่าย เป็นที่มาของการขับของเสียหรือพิษผุดออกมาทางผิวหนัง หากผู้อ่านทำการรักษากับแพทย์ที่ใช้การฝังเข็ม แพทย์ที่ชำนาญจะทำการเน้นโดยเลือกจุดใน “เส้นปอด” พร้อมกับการจ่ายยาประเภทที่ช่วยบำรุงรักษาปอดควบคู่กันไป

“วิธีรักษาน้ำเหลืองเสียด้วยการเลือกทานอาหาร”

พยายามเลือกทานอาหารที่ช่วยบำรุงรักษาปอดและผิวหนัง โดยให้พยายามงดการทานอาหารที่มีรสจัดมาก, งดทานของหวานและของมัน, งดทานเนื้อสัตว์โดยเลือกกินให้พอดีในแต่ละมื้อ และพยายามเพิ่มปริมาณการทานผักให้มากขึ้น เพราะหากผู้ที่มีอาการน้ำเหลืองเสียไม่ทานผัก จะส่งผลต่อระบบขับถ่าย ทำให้การขับของเสียและพิษไม่ดี “อยากผิวดี ต้องกินผัก” โดยอาจจะเลือกทานผลไม้และจิบชาประเภทใบหม่อน, ชาเก๊กฮวย

“การดูแลตัวเองเมื่อรู้ว่าเป็นน้ำเหลืองเสียโดยรวม”

สำหรับผู้ที่มีปัญหาดังกล่าว ให้พยายามงดของทอด, งดของมันเช่น กะทิ, อาหารรสเผ็ด, ไม่ทานน้ำแข็ง ควรพยายามออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ไม่เครียดและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ทำร้ายผิว “ไม่ทำให้ผิวแห้ง” หรืออาจจะเลือกใช้ประเภทที่เป็นสมุนไพร และเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพและวิเคราะห์โรคได้อย่างถูกต้องต่อไป

“แก้ปัญหาผิวที่เกิดจากอาการน้ำเหลืองเสีย ด้วยการทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น”
 
กับวิธีง่ายๆด้วยเคล็ดลับการเลือกทานอาหารที่ส่งผลดีต่อผิวหนังและสุขภาพของ คุณ ข้อมูลดีๆ จากนพ.คณิน กล่าวไว้ว่า คำว่าน้ำเหลืองไม่ดีนั้น คงจะหมายถึง มีปัญหาเรื่องผื่นผิวหนังและแผลพุพอง ซึ่งทำให้มีปัญหารอยแผลเป็นที่ผิวหนังได้ง่าย แถมยังหายได้ยาก ดังนั้นจึงขอแนะนำวิธีที่จะทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น โดยการทานอาหารที่อุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ซึ่งมีอยู่ในผักและผลไม้ที่มี สีเขียว, เหลือง, แดง, ม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักและผลไม้ที่มี สีเขียว, เหลือง, แดง, ม่วง ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีเบต้าแคโรทีนสูงเท่านั้น ผักและผลไม้ที่จะทำให้เราสามารถบอกลาปัญหาน้ำเหลืองไม่ดี ได้แก่ ผักคะน้า, ใบตำลึง, ใบชะพลู, ผักบุ้ง, แครอท, มะละกอ, แตงโม, สับปะรด, ฟักทอง, บีตรูท นอกจากนี้ วิตามินอี ที่อยู่ในธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวกล้อง, เมล็ดทานตะวัน, จมูกข้าวสาลี ก็เป็นตัวบำรุงผิวหนังของผู้มีอาการน้ำเหลืองเสียได้เป็นอย่างดี และในข้าวกล้อง ยังมีวิตามินบี 5 ซึ่งจัดเป็นวิตามินที่มีฤทธิ์แก้แพ้ ช่วยทำให้ผิวหนังแข็งแรงเพิ่มขึ้น อีกทั้งในเมล็ดทานตะวันยังมี Zinc ซึ่งมีฤทธิ์ในการลดรอยแผลก็น่าสนใจ


สำหรับผู้ที่มีปัญหาน้ำเหลืองเสีย และกำลังมองหาวิธีดูแลผิวหนังของคุณให้ดีขึ้น แนะนำทานข้าวกล้อง 3 มื้อ โดยให้โรยธัญพืช เช่น งาดำ, จมูกข้าวสาลี, เมล็ดทานตะวัน สัก 2 ช้อนโต๊ะ, อาจจะทาน ผักสด เน้นผักใบเขียวประมาณ 2 จาน, ถ้าเป็นผลไม้ เน้นสีเหลือง, แดง, ม่วง จำนวน 2 ผล หรือจะใช้น้ำผลไม้คั้นสด 1 แก้วก็ได้

ไม่ยากเลยใช่ไหม กับการดูแลผิวหนังที่โดนผลกระทบจากอาการน้ำเหลืองไม่ดี คุณผู้อ่านก็สามารถปฎิบัติได้ด้วยตัวเองได้ อีกทั้งราคาของ ผักและผลไม้ก็ไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย พยายามปรับเรื่องอาหารการกินตั้งแต่วันนี้ แล้วมาดูผลที่ได้รับกัน คุณอาจจะแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“อาบน้ำร้อนสลับน้ำเย็นจะช่วยให้ผิวน้ำเหลืองเสียดีขึ้น”

การอาบน้ำร้อนสลับเย็นมีที่มาที่ไปอย่างไร?

ต้นกำเนิดวิธีการดังกล่าวเริ่มต้นมาจากประเทศฟินแลนด์ โดยเริ่มจากการอบผิวอยู่ในห้องไม้ที่อุ่นด้วยฟืนจนพอเหมาะ แล้วรีบกระโจนตัวลงแช่ในช่องน้ำแข็งที่ถูกขุดเตรียมไว้ ซึ่งชาวฟินแลนด์ถือว่าจะช่วยให้สุขภาพผิวแข็งแรงและไม่เจ็บป่วยง่าย

ทีนี้ลองมาดูทางฝั่งเอเชียในประเทศญี่ปุ่นกันบ้างพบว่า วิธีการอาบน้ำร้อนสลับเย็นถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยโบราณอีกเหมือนกัน ดังที่คุณผู้อ่านอาจจะเคยได้ชมทางภาพยนตร์ ที่มีตัวละครนั่งอุ่นตัวอยู่ในโต๊ะร้อน แล้ววิ่งออกไปนอกบ้านยกถังน้ำขึ้นราดตัวเองกลางหิมะ ซึ่งนอกจากจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงแล้วยังถือว่าสมเป็นชายชาตรีอีกด้วย

ประโยชน์ของการอาบน้ำร้อนสลับกับน้ำเย็น

นอกเหนือจากที่กล่าวมา หากคุณผู้อ่านลองคิดตามหลักวิทยาศาสตร์จะพบว่า เมื่อเราอาบน้ำด้วยน้ำร้อนเส้นเลือดจะขยายตัวเพิ่มขึ้นพร้อมกับการสูบฉีด เลือด เมื่อสลับไปอาบน้ำเย็นทันทีในทางตรงกันข้ามกันเส้นเลือดก็จะหดตัว ทำให้เส้นเลือดเกิดการใช้งานอยู่เสมอและส่งผลดีต่อความแข็งแรงของผิวอีกด้วย

วิธีอาบน้ำร้อนสลับเย็นช่วงฟื้นฟูผิวน้ำเหลืองไม่ดี

จากประโยชน์ที่ได้อ่านข้างต้นเกี่ยวกับวิธีการอาบน้ำดังกล่าว เมื่อลองมาประยุกต์ใช้กับผู้ที่กำลังมีปัญหาผิวอ่อนแอจากอาการน้ำเหลืองไม่ดี น่าจะส่งผลดีต่อเนื่องกันไปด้วย เพราะการดูแลรักษาผิวน้ำเหลืองไม่ดีให้กลับมาดูดีอีกครั้งนั้น ต้องเริ่มจากการเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวก่อนเป็นอันดับแรก

วิธีการอาบน้ำร้อนสลับเย็นถือเป็นวิธีที่ดีอีกทางหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถใช้ได้กับทุกวัย เช่น วัยเด็กที่มีภูมิต้านทานน้อยอาจส่งผลให้เกิดอาการป่วยจากหวัดได้ และในวัยสูงอายุก็อาจจะไม่เหมาะนักสำหรับวิธีนี้ เพราะด้วยเส้นเลือดอาจจะเสื่อมไปตามวัยและไม่เหมาะที่จะขยายเส้นเลือดในแบบ รวดเร็ว อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี จึงต้องระมัดระวัง

เทคนิคการอาบก็ไม่ยาก เพียงต้มน้ำอุ่นๆหรือจะใช้เครื่องทำน้ำอุ่นก็ได้ อาบสักประมาณ 5 นาทีจนร่างกายรู้สึกอุ่น จากนั้นก็สลับอาบน้ำเย็นต่อ 5 นาที ซึ่งจะส่งผลให้รู้สึกสดชื่นและขอแนะนำให้อาบในช่วงเช้าเพื่อให้ได้ผลสูงสุด แถมช่วยให้หน้าตาสดชื่นจากการสัมผัสกับน้ำเย็นๆอีกด้วย

“รักษาด้วยด่างทับทิม”

ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการน้ำเหลืองเสีย คงทราบกันดีอยู่แล้วว่า แผลที่เกิดจากน้ำเหลืองไม่ดีนั้น หายช้า หายยาก และถึงแม้จะหายแล้ว ร่องรอยก็ยังจะคงตามสร้างความรำคานใจให้กับผู้ที่เป็นยิ่งนัก ไหนจะโดนเพื่อนล้อ ไหนจะกลัวลูกขาลาย กลัวขาไม่สวย จากปัญหาเหล่านี้ ทางบล็อกชมรมคนน้ำเหลืองไม่ดี จึงได้ทำการค้นหาข้อมูลดังกล่าว เพื่อนำมาเสนอให้กับผู้ที่ได้พบกับปัญหา ทราบถึงวิธีแก้ไข ในราคาที่ประหยัด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้แผลหายดีแล้ว ยังจะช่วยให้อาการริดสีดวงทุเลาลงด้วย

คุณสมบัติของด่างทับทิมฆ่าเชื้อและสมานแผล

ผู้อ่านหลายท่านอาจจะเคยรู้จักด่างทับทิมกันบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงข้อดีของมัน นอกจากด่างทับทิมจะมีราคาที่ถูกเพียง 8-15 บาท ต่อขวดแล้ว เหตุผลที่ทางบล็อกน้ำเหลืองเสีย อยากจะแนะนำคือ คุณสมบัติที่หลากหลายของสารดังกล่าว

ด่างทับทิมช่วยฆ่าเชื้อแผลที่เกิดจากอาการน้ำเหลืองเสีย เพียงนำกาละมังผสมกับน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่น ไม่ต้องร้อนจัด เทผงทับทิมลงไปเพียงให้น้ำเป็นสีชมพู คนให้เข้ากัน แช่แขนและขา หรือส่วนที่ต้องการลงไป หากพื้นที่แช่ไม่พอ ให้ทำการใช้มือกวักน้ำลูบแผลเบาๆโดยไม่ต้องถู นาน 20-30 นาที ทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่มีคนเถ้าคนแก่แนะนำว่า ควรทำตอนช่วงเย็น 18.00-20.00น. จะช่วยเกี่ยวกับเรื่อง Spa ได้อีกด้วย

ด่างทับทิมช่วยบรรเทาอาการริดสีดวง โดยทางบล็อกขออ้างอิงความคิดเห็นของ อ.กิตติโชติ วรโชติกำจร ซึ่งกล่าวไว้ว่า ประโยชน์ของด่างทับทิม หรือ สารละลาย Potassium Permanganate ในกรณีของผู้ป่วยริดสีดวง คือ อาศัยฤทธิ์ฝานสมาน (astringent) ของด่างทับทิม รวมถึงฤทธิ์ในการเป็น Local Anti-Infective อันเนื่องมาจากการเป็น Strong Oxidizing Agent โดยปกติยาเหน็บรักษาริดสีดวง ก็มียาที่มีฤทธิ์ฝาดสมานผสมอยู่ สารที่มีฤทธิ์ดฝาดสมานจะช่วยลดอาการอักเสบ โป่งบวมของแผลริดสีดวงได้

ประโยชน์ของด่างทับทิมนอกจากรักษาแผลน้ำเหลืองเสียและริดสีดวงแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ผู้อ่านอาจจะนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดผลที่ดีขึ้นในการรักษาแผล อีกทั้งด่างทับทิมยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจจาก “ชมรมคนน้ำเหลืองไม่ดี”

ที่มา: http://womenways.club/โรคน้ำเหลืองเสีย คือ อะไร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้